” สวัสดีครับ ผมปอง ธงรบ บัณฑิตเนตร์ ทำงานอยู่ในตำแหน่ง Senior application developer ที่ Blendata ครับ ผมเขียน Blog นี้ขึ้น เพื่อที่จะแชร์ความประทับใจจากการทำงานที่ Blendata และการได้โอกาสในการพัฒนา Product ด้าน Big data ในทุก ๆ มิติ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ทำงานที่เปิดโลก Big data ของผมให้กว้างขึ้นมากเลยทีเดียวครับ “
ทีมพัฒนาที่ Blendata ทำอะไรบ้าง?
มาดูในภาพรวมกันก่อน ทีมพัฒนาของเราทำหน้าที่ครอบคลุมตั้งแต่การศึกษากระบวนการและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ออกแบบโครงสร้างของระบบ สร้างและพัฒนาซอฟต์แวร์ แพลตฟอร์ม และฟีเจอร์ ออกแบบแพลตฟอร์มให้ง่ายต่อการใช้งาน (UX/UI) ทดสอบการใช้งาน ประเมินผลการทำงาน รวมถึงปรับปรุงแก้ไขให้ผลิตภัณฑ์มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุด
โดยแบ่งออกได้เป็น 3 ทีมย่อย ได้แก่ UX/UI, Developer และ Tester ซึ่งแต่ละทีมก็มีหน้าที่และความรับผิดชอบที่แบ่งกันอย่างชัดเจน แต่ในขณะเดียวกันทั้ง 3 ทีมก็มี Scope การทำงานร่วมกันตั้งแต่ต้นจนจบ ตามหลักการทำงานแบบ Agile ดังนี้
UX/UI ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้งาน ทำ User research ศึกษา Customer journey ออกแบบ Product ให้ง่ายต่อการใช้งาน ทั้งในเชิงเทคนิคและความสวยงาม รวมถึงทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุง เพื่อให้ Product ง่ายต่อการใช้งานและตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุด
Developer เข้าใจ Architecture ของ Product พัฒนาและปรับปรุง Product ให้ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างถูกต้องและมีคุณภาพ และยังศึกษาเรียนรู้เทคโนโลยี Big data ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ Apache Spark, Hadoop, Apache kafka, CDC และอื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อนำไปต่อยอด Feature ต่าง ๆ ให้กับ Product ได้อย่างดีเยี่ยม และใช้ภาษาการเขียนโปรแกรมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Java, Scala, Angular / TypeScript / Javascript และภาษาอื่น ๆ อีกด้วย
Tester ควบคุมและทดสอบการทำงานของ Product ให้มีคุณภาพ Tester จะเข้าไปมีส่วนร่วมตั้งแต่ขั้นตอน Design เพื่อเรียนรู้ทำความเข้าใจ Product ร่วมกัน เพื่อที่จะ Design test scenario และ Test case ได้อย่างครบถ้วนแม่นยำ
และนี่ก็คือภาพรวมของทีมพัฒนานั่นเอง มาถึงในส่วนของหน้าที่ของผมกันบ้างครับ นอกจากหน้าที่หลักซึ่งคือการเป็น Developer แล้ว ผมยังทำหน้าที่เป็น Team lead อีกด้วย ซึ่งต้องรับผิดชอบทั้งในส่วนของ Product owner และ Scrum master ด้วยครับ
เริ่มจากในมุม Product owner ตัวผมเองต้องบริหารจัดการการสร้าง Product ให้เป็นไปตาม Roadmap รวบรวม Backlog จาก Stakeholder และสรุปทำความเข้าใจ เพื่อแตกออกมาเป็น User story ที่มีคุณภาพ ประเมิน Priority task ต่าง ๆ จาก Backlog ก่อนที่จะหยิบเข้ามา Planning กับทีมในแต่ละ Sprint และคอยให้คำปรึกษาในด้าน Technique และ Business จาก User story ต่าง ๆ ให้ทีมเข้าใจภาพในทางเดียวกัน มุม Scrum master ควบคุมและกำกับ Work flow ให้เป็นไปตาม Agile process เช่น จัด Daily scrum meeting, Sprint planning, Sprint retrospective เป็นต้น รวมทั้งคอยจัดการอุปสรรคต่าง ๆ ให้เป็นไปตาม Work flow ได้อย่างลื่นไหล และสุดท้ายในมุม Developer พัฒนา Feature task หรือ Fix bug task ต่าง ๆ และให้คำปรึกษาทางด้าน Technique ให้กับสมาชิกทีม (UX/UI, Tester และ Developer)
” สำหรับผมแล้วการทำงานในสาย Developer ที่ทำหน้าที่ Team lead ด้วยนั้น ค่อนข้างท้าทายมากครับ เพราะนอกจากการพัฒนา Product แล้ว ผมยังต้องบริหารจัดการทีมให้ได้ด้วย ตำแหน่งนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้การทำงานที่กว้างขึ้น และพบว่าชีวิตการทำงานยังมีเรื่องสนุก ๆ ให้ได้เรียนรู้ในทุก ๆ วัน ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ที่ดีมากครับ “
ในทีมพัฒนาของเรา โดยส่วนใหญ่สมาชิกทีมจะอยู่ในช่วงอายุประมาณ 26-30 ปี มีทั้งสายกิน สายเกม สายเมาท์มอย Introvert Extrovert หรือจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ลูกอ่อนก็มีนะครับ ทุกคน Friendly และเป็นกันเอง ทำให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างสบาย ๆ ไม่อึดอัดเลยครับ
ทีมของเรามีสไตล์การทำงานแบบไหน?
#Agile
ทีมพัฒนาของเรายึดหลักการทำงานแบบ Agile ซึ่งเป็นวิธีการทำงานที่เน้นการพูดคุยสื่อสารกันเป็นหลัก ช่วยให้การทำงานเป็นทีมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเหมาะกับการพัฒนา Product ที่เน้นความเร็วในการสร้าง ทดสอบ ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้การทำงานมีความต่อเนื่อง คล่องตัวสูง และสามารถปรับเปลี่ยนตาม Technology หรือ Innovation ใหม่ ๆ ได้ทันกับโลกปัจจุบันที่หมุนเร็วขึ้น
เพื่อให้การทำงานเป็นแบบ Agile เราจะใช้การทำงานรูปแบบของ Scrum โดยเริ่มจากรวบรวม Product backlog (Requirement หรือ Feedback) ต่าง ๆ ที่ได้จากการ Brainstorm หรือเป็น Idea ของทีมพัฒนาเอง จากลูกค้า และจากทีมต่าง ๆ ในบริษัท ซึ่งเราเปิดรับทุก ๆ Backlog เพราะทุกข้อมูลมีความสำคัญในการพัฒนา Product ของเราให้ดียิ่งขึ้น
เราแบ่งรอบการทำงานเป็น Sprint หรือ ทุก ๆ 2 สัปดาห์ เราจะเริ่มจากการ Planning ในต้น Sprint เพื่อรีวิว Product backlog และวางแผนงานที่ต้องทำใน Sprint นี้ และเมื่อจบ Sprint เราจะมีการทำ Sprint retrospective เพื่อแชร์ความรู้สึกและประมวลสิ่งที่เกิดขึ้นใน Sprint ที่ผ่านมาร่วมกัน มีสิ่งไหนที่ดีและไม่ดีบ้าง และเราจะปรับปรุง Process การทำงานให้ดีขึ้นอย่างไรได้บ้าง ซึ่งทุกคนรับฟังและให้เกียรติในความเห็นของแต่ละคนอย่างเต็มที่
ในการทำงานยังมี Scrum daily meeting ที่ทุกวันตอนเช้าเราจะมาอัพเดตข้อมูลหรือปัญหาที่พบเจอจากวันที่ผ่านมาว่าเราติดปัญหาอะไรอยู่ ร่วมพูดคุยช่วยกันแก้ไขปัญหาอย่างตรงไปตรงมา
ซึ่งการทำงานในรูปแบบ Agile เป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกสนุกกับการทำงานที่นี่มาก เพราะนอกจากจะได้แชร์ความคิดเห็นในฐานะ Team lead แล้ว ยังได้รับฟังไอเดียและความคิดเห็นของสมาชิกในทีมในทุก ๆ วัน เมื่อทุกคนกล้าที่จะพูด ก็ทำให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นนั่นเองครับ
#Work with other teams
เพื่อให้การทำงานร่วมกับทีมอื่น ๆ ในบริษัทเป็นไปอย่างราบรื่น ทางบริษัทก็ได้มีการกำหนดให้มี Blendata meeting day ทุก 2 สัปดาห์ ที่ทุกคนจะได้ร่วมพูดคุยกัน ไม่ว่าคุณจะอยู่ทีมไหนก็จะมาสนทนาร่วมกัน เพื่ออัพเดตความเป็นไปของบริษัทได้ต่อเนื่อง แบบไม่มีตกข่าว หรือทีมไหนอยากจะแชร์ไอเดียหรือประเด็นอะไรที่น่าสนใจ ก็สามารถพูดคุยกันผ่าน Blendata meeting day ได้เลย ซึ่งตรงนี้ก็ทำให้เราได้มีโอกาสพูดคุยกับคนอื่น ๆ ที่อาจจะไม่ค่อยได้ร่วมงานกัน ทำให้เราสามารถคุยกันได้ทั้งบริษัท ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องจริงจัง ไปจนถึงเม้าท์มอย ชวนเล่นเกม สร้างความสนุกสนานระหว่างทีมได้เต็มที่ครับ
ความประทับใจจากการได้ทำงานที่ Blendata
#Big data
สำหรับผมแค่ได้ยินคำว่า Big data ก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจแล้ว เพราะโลกเราทุกวันนี้ให้ความสำคัญกับข้อมูลเป็นอย่างมาก ดังคำกล่าวที่ว่า “Data is the new oil” ทั้งเทรนด์การใช้ข้อมูล การเติบโตของตลาด Big data หรือเทรนด์การนำ Big data ไป Adapt ใช้กับเทคโนโลยีอื่น ๆ ก็เป็นสิ่งที่สะท้อนว่า Big data คือเทคโนโลยีที่สำคัญมากในปัจจุบันและโลกอนาคต ซึ่งก็ส่งผลให้สายงานด้านนี้เติบโตตามไปด้วย
จากประสบการณ์ที่ผมได้ทำงานที่นี่มา นอกจากมีหน้าที่ในการพัฒนา Product แล้ว ผมยังได้ทำความเข้าใจถึงปัญหาการทำ Big data ที่เกิดขึ้นกับหลาย ๆ องค์กรในประเทศไทย เพื่อพัฒนา Product ให้ตอบโจทย์มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับการที่บางองค์กรมีข้อมูลอยู่แล้ว แต่ไม่มีแนวทางในการจัดการ บางองค์กรอยากเก็บข้อมูลเพิ่มเติม แต่มีข้อจำกัดในการขยายระบบ หรือบางองค์กรที่ยังไม่มีการวางระบบการจัดการข้อมูลที่ดีพอ ทำให้ไม่ทราบว่าทรัพยากรบางอย่างในองค์กรก็เก็บเป็นข้อมูลได้ ซึ่ง Blendata สามารถแก้ไขข้อจำกัดเหล่านี้ได้ ผมมองว่ามันเป็นอะไรที่เจ๋งมากและผมเองก็ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ บวกกับปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่ของเราเป็นลูกค้าองค์กรชั้นนำระดับประเทศ ” การที่ผมและทีมสามารถสร้างเทคโนโลยี Big data ที่เข้าไปยกระดับการทำงานด้านข้อมูลขององค์กรขนาดใหญ่ได้ นับเป็นงานที่ท้าทายและมีคุณค่าสำหรับผมมากครับ “
#Flat level
มาถึงความประทับใจในมุมของการทำงาน Internal กันบ้าง ทีมเราสนับสนุนการทำงานแบบ Flat level หรือ Flat organization ซึ่งผมคิดว่าการทำงานแบบนี้ทำให้เราเห็นศักยภาพของสมาชิกทีมอย่างแท้จริง เรามองว่าทุกคนมีศักยภาพของตนเอง ทุกคนมีสิทธิ์ในการออกความคิดเห็นและตัดสินใจในหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเองอย่างเต็มที่ ใน Blendata ไม่ว่าจะเป็น CEO, CTO หรือ Team lead ทุกคนพร้อมเปิดรับฟังทุกความคิดเห็น และวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมา เพื่อให้งานออกมาดีและมีประสิทธิภาพที่สุด
#Learning together
อีกหนึ่งข้อที่ผมประทับใจก็คือ Culture การทำงานที่นี่ ที่สนับสนุนให้ทุกคนได้เรียนรู้และเติบโตไปด้วยกัน เช่น ทีมงานของ Blendata ในบางตำแหน่งหรือบาง Role อาจจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีด้าน Big data หรือเครื่องมือต่าง ๆ ในการพัฒนา แต่หากมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ทุกคนก็พร้อมที่จะสอน หรือแม้แต่ตัวผมเองที่อาจจะยังขาดทักษะหรือความรู้ในบางด้าน ก็สามารถขอคำแนะนำจากสมาชิกที่มีประสบการณ์ได้ เป็นการแชร์ความรู้ในด้านที่แต่ละคนถนัด เพื่อให้ทุกคนได้อัพสกิลขึ้น โดยไม่ปิดกั้นความตั้งใจและความพยายามของทุกคน
#Growth mindset
ทีมเราผลักดันให้ทุกคนเรียนรู้สิ่งใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีใหม่ ๆ หรือทักษะต่าง ๆ ที่ทันยุคทันสมัย สามารถต่อยอดความสามารถของคุณให้เก่งครบรอบด้าน ทุกคนสามารถบอกความสนใจหรือสิ่งที่ต้องการเรียนรู้กับบริษัทได้เลย โดยคนที่เก่งด้านนั้น ๆ ก็จะช่วยแนะนำสิ่งที่ควรเรียนรู้ให้อย่างจริงใจ รวมทั้งยังมีสวัสดิการให้สามารถศึกษาเรื่องที่สนใจจากคอร์สเรียนภายนอกได้อีกด้วย ทำให้ผมรู้สึกมีไฟ ได้สนุกกับการเรียนรู้และอยากที่จะพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
#Hybrid work model
การทำงานแบบ Hybrid work model ตอบโจทย์การใช้ชีวิตการทำงานของผมมากครับ Blendata มีการกำหนดการทำงานแบบ Hybrid work model มาตั้งแต่ที่ยังไม่มีสถานการณ์ COVID-19 คือ มีทั้ง Work from office และ Work from home ปนกันในแต่ละสัปดาห์ อย่างในปัจจุบันมีการทำงาน Work from office 1 วันต่อสัปดาห์ วันที่เหลือเป็น Work from home ส่วนตัวแล้วผมรู้สึกว่าการทำงานแบบ Hybrid ช่วยลดความเครียดจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น ลดความเร่งรีบและลดเวลาการเดินทาง มีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังได้เข้าออฟฟิศพบปะทีม เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงาน ทำให้ผมสามารถบาลานซ์การทำงานกับการใช้ชีวิตได้ดีขึ้นครับ
#Funny activity
ไม่ใช่ว่าทีมพัฒนาจะนั่งหน้าคอมกันอย่างเดียว ทำงานเครียด ๆ มา เราก็มีกิจกรรมคลายเครียดอื่น ๆ เช่น ช่วงเวลาเมาท์มอย เราก็จะตั้ง Topic ที่ทุกคนจะมาร่วมพูดคุยกัน แบ่งปันเรื่องราวซึ่งกันและกัน ช่วงเวลาแห่งการเล่นเกม ถ้า Work from home เราก็จะหาเกมออนไลน์มาเล่นกัน ถ้า Work from office ก็จะมี PS4 กับ Nintendo switch ให้เล่นด้วยครับ รับรองว่าไม่ปล่อยให้ทำงานกันจนเครียดแน่นอน ทีมเราสามารถแบ่งเวลาสนุกสนาน Enjoy ได้อย่างดีเลยครับ
สำหรับใครที่อยากเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ Blendata สามารถส่งเรซูเม่มาที่
[email protected]
หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับตำแหน่งงานที่เปิดรับได้ที่
https://blendata.co/careers/
“แล้วพบกันครับ”
Thongrob Banditnet – Senior application developer