ในยุคดิจิทัล Big Data และ AI คือเทคโนโลยีที่มีบทบาทต่อโลกธุรกิจเป็นอย่างมาก ทั้ง 2 เทคโนโลยีถูกนำไปใช้ยกระดับธุรกิจในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Big Data ผสานกับการวิเคราะห์ของ AI ประกอบการตัดสินใจและวางแผนกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อสร้างผลกำไรและลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น การคาดการณ์แนวโน้มของตลาด การวิเคราะห์พฤติกรรมเชิงลึกของผู้บริโภค การพัฒนาระบบการทำงานภายในองค์กรเพื่อลดข้อผิดพลาดของมนุษย์ (Human error) เพิ่มประสิทธิภาพระบบขนส่ง (Logistic) ใช้เป็นข้อมูลในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ส่งเสริมการทำการตลาดแบบ Personalization ช่วยในการสรรหาบุคลากร รวมถึงการบริหารจัดการ Customer Experience และอื่น ๆ อีกมากมาย
จากผลสำรวจของ Forrester consulting พบว่าบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายด้านรายได้มากกว่าบริษัทที่ไม่เน้นการใช้ข้อมูลถึง 58% สอดคล้องกับผลสำรวจของ PWC ระบุว่า 54% ของผู้บริหารกล่าวว่าโซลูชัน AI ได้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับธุรกิจ แสดงให้เห็นว่า Big Data และ AI คือแรงขับเคลื่อนสำคัญของการทำธุรกิจที่ทุกอุตสาหกรรมรวมถึงองค์กรทุกขนาดต้องเร่งปรับใช้และก้าวสู่การเป็น Data-driven organization เพื่อเตรียมพร้อมในทุกการแข่งขัน
Big Data คือข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีปริมาณมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเชิงโครงสร้าง กึ่งโครงสร้าง หรือไม่มีโครงสร้าง ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ถือเป็นข้อมูลที่รอการนำไปต่อยอดเพื่อสร้างมูลค่าให้กับองค์กร ผ่านการวิเคราะห์และประมวลผลโดยเทคโนโลยีหรือระบบอัตโนมัติ แต่การที่จะทำ Big Data ให้สำเร็จนั้น เพียงแค่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากข้อมูลที่ใช้จะต้องมีคุณภาพสูง เหมาะกับการนำไปวิเคราะห์เพื่อให้ได้ Insight ในด้านต่าง ๆ ซึ่งต้องประกอบด้วยคุณสมบัติตามหลักการ 5V คือ 1. Volume ข้อมูลที่มีปริมาณมหาศาล 2. Velocity ข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นอย่างรวดเร็วและมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 3. Variety รูปแบบของข้อมูลที่มีความหลากหลาย 4. Variability ข้อมูลที่ยืดหยุ่นและเปลี่ยนแปลงไปตามทิศทางการใช้งาน 5. Veracity ข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ
AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ คือเทคโนโลยีที่ถูกออกแบบให้มีระบบการทำงานเหมือนสมองมนุษย์ โดยมีความสามารถในการเรียนรู้และจดจำข้อมูล รูปภาพ ภาษา สามารถทำการวิเคราะห์ ประมวลผล คาดการณ์และตอบสนองได้
ดังนั้น Big Data และ AI จึงเป็นการทำงานที่สัมพันธ์กันและช่วยส่งเสริมความสามารถของกันและกัน เนื่องจาก AI ต้องการข้อมูลมหาศาลที่มีคุณภาพ เพื่อการเรียนรู้และวิเคราะห์อย่างแม่นยำ ส่วน Big Data นั้นก็ต้องการความฉลาดของ AI เพื่อช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ‘Big Data’ คือพื้นฐานของ AI และการทำงานร่วมกันของทั้ง 2 เทคโนโลยี ช่วยให้ได้มาซึ่ง Insight ที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตามการที่องค์กรจะใช้เทคโนโลยี Big Data และ AI ได้เต็มศักยภาพและไม่เกิดข้อผิดพลาดนั้น จะต้องอาศัยปัจจัยหลัก 2 ด้าน ประกอบไปด้วย 1. ข้อมูล และ 2. บุคลากรผู้เชี่ยวชาญ จึงจะสามารถขับเคลื่อนเทคโนโลยี AI ให้เกิดผลลัพธ์ได้ดีที่สุด Big Data และ AI คือการทำงานร่วมกันระหว่างระบบซอฟต์แวร์ ข้อมูล และอัลกอริทึม โดยซอฟต์แวร์จะทำหน้าที่ในการรวบรวม จัดเก็บ วิเคราะห์และแสดงผลข้อมูล ซึ่งจะต้องใช้ข้อมูลที่มีคุณภาพในการขับเคลื่อน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด ประกอบกับอัลกอริทึมที่ช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลของ AI เป็นไปอย่างชาญฉลาดมากขึ้น อย่าง Machine learning, Deep learning หรือ Natural language processing และอื่น ๆ รวมถึงเป็นหน้าที่ของบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล ฝ่าย IT และ User ที่จะต้องเลือกใช้ซอฟต์แวร์หรือแพลตฟอร์มที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ากับการลงทุน พร้อมทั้งนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลและ User ต้องมีการวางแผนร่วมกันถึงผลลัพธ์ที่ต้องการจากข้อมูล เพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลสามารถสร้างโมเดลให้ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ทางธุรกิจ
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
https://www.depa.or.th/storage/app/media/file/Second%20Deliverable%20RevVer%20TH%20V12%20140819%20FIN.pdf